วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

27 สถานที่ มหัศจรรย์

วันนี้ เดอลาพาไทยแลนด์ ขอพาเพื่อนๆ ไปชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมา กับ 27 สถานที่ มหัศจรรย์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า สถานที่เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จริงในโลก แต่ละที่ล้วนสวยงาม น่าไปเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยทีเดียว ไปดูกัน.....!!!

1. Mendenhall Ice Caves of Juneau in Alaska, United States


อุโมงค์น้ำแข็งแห่งอลาสก้า ยาวกว่า 12 ไมล์ หรือ 19 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่หุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau ในรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมา แขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง เป็นความอลังการจากธรรมชาติจริงๆ


2. Antelope Canyon in Arizona, United States
หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นร่องหินทรายที่ถูกน้ำกัดเซาะและได้ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะที่คล้ายกลับหินผา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่นี่กลายเป็นหุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตร เลยทีเดียว อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา


3. Glowworm Caves in Waitomo, New Zealand
เจ้าถ้ำสุดมหัศจจรย์ที่ว่านี้ มีชื่อว่า “Waitomo Glowworm Caves” อยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และได้ชื่อว่าเป็น ถ้ำหนอนเรืองแสง น่าจะสวยที่สุดในโลกก็ว่าได้ คำว่า Waitomo แปลว่า น้ำที่ลอดผ่านถ้ำ ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทางกายภาพภายในถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่านนั่นเอง ถ้ำแห่งนี้ได้รับการสำรวจเป็นครั้งแรกในปี 1887 และสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องตกตลึงเมื่อเข้าไปสู่ถ้ำแห่งนี้ ก็คือ แสงระยิบระยับ จนเหมือนว่ากำลังมองดูดวงดาวบนฟ้าในยามค่ำคืน โดยสาเหตุของแสงที่ว่านี้ก็เนื่องมาจากหนอนเรืองแสง ที่อยู่ภายในถ้ำนั่นเอง


4. Bamboo groves of Arashiyama in Kyoto, Japan
อุโมงค์ไม้ไผ่ หรือ สวนไผ่อาราชิยามา (Arashiyama) ประเทศญี่ปุ่น สวยงามจับใจ ตั้งอยู่ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น สวนไผ่แห่งนี้ มีต้นไผ่สูงเสียดขึ้นตลอดสองข้างทาง น่าตื่นตาตื่นใจจนล่าสุด อุโมงค์ไม้ไผ่ แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกไปแล้ว


5. Sea of Stars on Vaadhoo Island in the Maldives
แสงสวยงามที่ระยิบระยับตามแนวชายหาดของ มัลดีฟส์ ในยามค่ำคืนอาจจะเหมือนเป็นแสงจากดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ที่จริงแล้ว คือ จุลินทรีย์ทางทะเล หรือแพลงก์ตอนพืชที่เรืองแสงอยู่ในน้ำนั่นเอง ทำให้เกิดแสงสีน้ำเงินสวยน่าตื่นตาตื่นใจตามชายหาด


6. The Great Blue Hole in Belize
หลุมยักษ์น้ำเงินครามแห่งเบลิซ ประเทศนี้ตั้งอยู่บนทางฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ใกล้ริมทะเลแคริบเบียน หลุมประหลาดนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งเบลิซประมาณ 60 ไมล์ เส้นผ่าศูนย์กลาง 984 ฟุต กับความลึกประมาณ 410 ฟุต เชื่อกันว่าหลุมนี้เป็นหลุมกลางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สันนิษฐานกันว่ามันก่อตัวขึ้นในยุคน้ำแข็ง แถมหลุมนี้ยังเป็น 1 ใน 7 หลุมที่นักประดาน้ำจัดอันดับสถานที่น่าดำน้ำที่สุดในโลกอีกด้วย

7. Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia
 Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก


8. Victoria Falls bordering Zimbabwe and Zambia in Africa
เคยเล่นน้ำตกที่เสียวขนาดนี้ไหม? 355 ฟุต จากหน้าผา น้ำตกวิกตอเรีย ตั้งอยู่ที่ชายแดนของประเทศแซมเบีย และซิมบับเว เป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ ที่แซมเบียยังเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า “สระว่ายน้ำของซาตาน” ได้ยินเพียงแค่นี้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย ก็อยากพิสูจน์สักครั้งหนึ่งในชีวิต ใช่ไหมล่ะ!?


9. Zhangye Danxia landform in Gansu, China
ภูเขาสีรุ้ง หรือ ภูเขาหลากสี ในเขตมณฑลกันซู่ ประเทศจีน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่สรรสร้างด้วยฝีมือธรรมชาติโดยแท้ ภาพภูเขหลากหลายสีสันตรงนี้ เกิดจากการตกตะกอนของหินทราย และแร่ธาตุในบริเวณนี้ทับถมกันมานานกว่า 24 ล้านปี นั่นเอง


10. The swing at the “End of the World” in Baños, Ecuador
ภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่นอยู่ และยังไม่ดับสนิทแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ประเทศเอกวาดอร์ การมาชมภูเขาไฟที่นี่ไม่ธรรมดา จะมีการชมวิวภูเขาไฟที่ไหน.. ที่ตื่นเต้นได้มากกว่านี้อีกไหม? ไกวชิงช้าที่ผูกไว้ในบ้านต้นไม้ออกไปที่หน้าผาเพื่อรับรู้ความรู้สึกของธรรมชาติ ความสูงเสียดฟ้า ไม่มีเข็มขัดนิรภัยให้อึดอัด รับรองว่าเสียวไปถึงสันหลัง


11. The Hang Son Doong cave in Quang Binh Province, Vietnam
Son Doong เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang เขต Bo Trach จังหวัดกงบินห์ ใกล้ชายแดนลาวและเวียดนาม โถงถ้ำที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำซันดองยาวกว่า 4,000 เมตร กว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 150 เมตร คาดว่าถ้ำนี้มีมาตั้งแต่ 2-5 ล้านปีที่แล้ว..


ภูเขา Roraima สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ เกิดจาดการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อประมาณ 2 พันล้านปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่เป็นชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ คือ บราซิล, กายอานา และเวเนซุเอลา ความพิเศษของภูเขาลูกนี้ คือ มียอดเขาตัดที่แบนราบ คล้ายกับรูปโต๊ะ ซึ่งลักษณะแบบนี้หายากมากในโลก ทีมงานพิกซาร์ ยังเคยนำภาพภูเขาลูกนี้ ใช้เป็นฉากประกอบในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง UP มาแล้วอีกด้วย


13. Ancient Region of Anatolia in Cappadocia, Turkey
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่ผ่านมา (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ลูก ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา เถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา เกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวงสารพัดรูปร่าง เมืองนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และเป็นจุดที่ชื่นชอบสำหรับบอลลูนอีกด้วย


14. Trolltunga in Hordaland, Norway
Trolltunga มีความหมายว่า ลิ้นของโทรลล์ ด้วยความที่เป็นชะง่อนผา ดูลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขา ซึ่งอยู่สูงเหนือพื้นดินประมาณ 2,000 ฟุต หากยอมปืนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวสวยคุ้มค่ากับที่ลงแรงปืนขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะวิวที่เห็นคือ แม่น้ำ Ringedalsvatnet ที่สวยราวกับภาพวาด แต่นักท่องเที่ยวก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน เท่านั้น!


15. Whitehaven Beach at Whitsunday Island in Australia
ความขาวของหาดไวท์ฮาเว่น ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์ อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด โดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98% ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี นอกจากมีลักษณะเฉพาะของทรายขาวละเอียดสวยงามแล้ว ยังเป็นทรายที่ไม่เก็บความร้อนอีกด้วย ทำให้เราสามารถเดินชิลเท้าเปล่าริมหาดได้อย่างสบายใจ


16. Tunnel of Love in Klevan, Ukraine
อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) คือ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศยูเครน เป็นอุโมงค์รถไฟที่สร้างขึ้นจากต้นไม้อย่างสวยงามตั้งอยู่ในเขตเมืองเคลเว่น (Klevan) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดริฟเน (Rivne region) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศยูเครนนั่นเอง เห็นแบบนี้โรแมนติกอย่าบอกใคร แนะนำให้เก็บเงินแล้วเตรียมไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่เลย


17. The Grand Canyon in Arizona, United States
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกก็คือที่นี่ “Grand Canyon” เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของรัฐอริโซน่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาสิโนชื่อดังอย่าง ลาสเวกัส ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว ในบริเวณซอกหลืบของหุบเขาน้อยใหญ่ยังมีการค้นพบร่องรอยอารยธรรมของชาวอินเดียนแดงโบราณอีกด้วย


18. Marble Caves at General Carrera Lake in Patagonia (Argentina and Chile)
ถ้ำหินอ่อนนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของทะเลสาบการ์เรรา (General Carrera) ทะเลสาบขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ โดยทะเลสาบนั้นระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินา และชิลี เป็นถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำได้กัดเซาะเป็นระยะเวลานับล้านปี จนภูเขาหินอ่อนเกิดเป็นถ้ำหินอ่อนอันงดงามไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก


19. Enchanted Well at Chapada Diamantina in Bahia, Brazil
ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Chapada Diamantina ในประเทศบราซิล น้ำในบ่อแห่งนี้ใสราวกับกระจก ถึงแม้จะลึกถึง 120 ฟุต แต่ก็สามารถมองเห็นโขดหินที่อยู่เบื้องล่างได้อย่างเห็นชัด ชวนให้อยากลงไปว่ายน้ำซะจริงๆ


20. Haiku Stairs of Oahu in Hawaii, United States
บันไดไฮกุ เริ่มแรกเป็นบันไดไม้ตอกยึดไว้กับหน้าผาทางตอนใต้ของหุบเขาไฮกุ ติดตั้งในปี ค.ศ. 1942 เป็นการเชื่อมต่อสายอากาศจากด้านหนึ่งของเขาไฮกุไปยังอีกด้านหนึ่ง เพื่อสร้างระบบสื่อสารวิทยุอย่างต่อเนื่อง บันไดไฮกุ รู้จักกันดีในชื่อของ บันไดสู่สวรรค์ ใครอยากขึ้นไปสัมผัสต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพื่อไต่ขั้นบันไดทั้งหมด 3,922 ขั้น พิชิตยอดสูงสุดที่ 2,800 เมตร ด้วยเส้นทางที่สูงชันอันตราย บันไดไฮกุ จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัย กายและใจถึงเท่านั้น!


21. To Sua Ocean Trench in the Lotofaga village on the south coast of Upolu, Samoa
หลุมสระแห่งนี้เป็นสระขนาดใหญ่ในตามธรรมชาติมี น้ำใสกิ๊กอยู่ในประเทศซามัว ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกใกล้กับนิวซีแลนด์ ชื่อตามภาษาท้องถิ่นเรียกหลุมนี้ว่า โทซัว อันมีความหมายว่าหลุมยักษ์ พูดว่าหลุมก็จะทำให้คิดถึงว่าคงจะมีการทรุดตัว ของดินตรงนี้จนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ แต่แท้จริงแล้วหลุมนี้ไม่ได้เกิดจากการยุบตัวแต่อย่างใดมันเป็นหลุมที่เกิดจากแรงดันของน้ำในทะเลที่อยู่ใกล้กัน เป็นปรากฏการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปบริเวณชายฝั่งไม่ห่างจากทะเลมากนัก
หลักการ คือ น้ำในทะเลมีแรงดัน ดันน้ำเข้าโพรง หรือรอยแตกชั้นใต้ดินเข้าหาพื้นที่ฝั่ง หลังจากนั้นแรงดันก็กัดเซาะเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กำเนิดเป็นโพรงทะลุทำให้เกิดบ่อ ลักษณะคล้ายหลุมนั่นเองปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Blowhole และโทซัวแห่งนี้ก็คือ Blowhole นั่นเอง

22. Cenotes of Yucatán Peninsula in Mexicoหลุมยุบ “ซิโนเตแห่งยูคาตัน” (Cenote-Ik-Kil) หรือบ่อน้ำหินปูนธรรมชาติ อยู่ในเขตยูคาทาน ประเทศเม็กซิโก หลุมยุบแห่งนี้มีความลึกประมาณ 90 ฟุต เป็นส่วนหนึ่งของลำธารและแม่น้ำใต้ดินในแถบยูคาทาน โดยนับว่าเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงอาณาจักรมายาที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงที่นี่ ต้องพบเจอบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางหลุม ซึ่งทั้งใสและเย็น น่าจะดึงดูดคุณให้ลงไปว่ายน้ำอย่างแน่นอน ให้ความรู้สึกเหมือนสวรรค์บนดิน ดีๆ นี่เอง

23. Kelimutu crater lakes in Flores Island, Indonesiaเขาไฟเคลิมูตู (Mount Kelimutu) อยู่ในอุทธยานแห่งชาติบนเกาะ Flores ประเทศอินโดนีเซีย ถึงภูเขาไฟแห่งนี้จะอยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แวะมาชมความงามมหัศจรรย์แปลกตาของภูเขาไฟลูกนี้ เพราะบนยอดภูเขาไฟจะมีทะเลสาบขนาดเล็ก 3 แห่ง และน้ำในทะเลสาบแต่ละแห่ง จะมีสีไม่เหมือนกันและที่แปลกไปกว่านั้น คือ น้ำในทะเลสาบ 3 แห่งนี้ ยังเปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย!

24. Volcanoes of Kamchatka in Russia
เมืองคัมซัตกา ในประเทศรัสเซีย แห่งนี้ เป็นตัวอย่างของเขตภูเขาไฟที่เด่นชัดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากมีภูเขาไฟที่ยังมีพลัง (active volcano) อยู่อีกเป็นจำนวนมาก และมีลักษณะเฉพาะต่างๆ ของภูเขาไฟหลากหลายรูปแบบ และภูเขาไฟส่วนใหญ่ในคาบสมุทรคามชัตคา (Kamchatka) ยังมีพลังไฟและธารน้ำแข็ง ที่ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม ตระการตาอย่างยิ่ง นอกจากนี้ บริเวณแห่งนี้ยังมีความหลากหลายของพันธุ์สัตว์ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอนหลายสายพันธุ์ที่สุดในโลก นากทะเล หมีสีน้ำตาล และนกอินทรีทะเลสเตลลาร์ Stellar จำนวนมาก


25. Fingal’s Cave on the island of Staffa in Scotland
แม้ว่า ถ้ำฟิงกอล ที่ประเทศสกอตแลนด์ นี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นโครงสร้างบล็อกๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น  แต่ความจริงแล้วเสาหินหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ด้วยสภาพถ้ำที่เป็นโพรงแนวยาว ทำให้ภายในถ้ำเกิดเป็นเสียงสะท้อน คล้ายเสียงดนตรีได้ด้วย บางทีคนก็เรียกถ้ำนี้ว่า “Cave of melody


26. Tulip fields in the Netherlands
ทุ่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ ได้ชื่อว่า เป็นทุ่งดอกไม้แห่งยุโรป หลายร้อยกี่หลายพันไร่ที่นี่เต็มไปด้วยทิวลิป หากมองจากภาพมุมสูงจะเหมือนว่าพื้นดินตรงที่ปลูกดอกไม้เป็นพรมชั้นดีที่มี สีสันหลากหลายสดใสตระการตา ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งปลูกดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก ยังเป็นแหล่งค้าขายดอกไม้ส่งออกทั่วโลกเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย

27. Hitachi Seaside Park in Hitachinaka, Ibaraki, Japan
ยิ่งกว่าเทพนิยาย “Hitachi Seaside Park” หรือสวน Hitachi Nakakoen เป็นสวนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น มีขนาดกว่า 153 เฮกเตอร์ ดอกไม้ที่ปลูกที่นี่มีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในแต่ละฤดูกาล ทางสวนจะมีการปลูกดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ไฮไลท์คือ การมาถึงเนินเขาที่เต็มไปด้วย ดอก “Nemophilia” ซึ่งเป็นดอกไม้สีฟ้าขนาดเล็กสวยเหมือนในนิทาน 4.5 ล้านดอกเรียงๆ กันอย่างอลังการ

ที่มา.เอ็มไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น