เมื่อถึงวันที่คุณตัดสินใจว่าคุณจะเป็นเถ้าแก่ (ไม่ว่าวันนี้จะเป็นเถ้าแก่ออนไลน์ก่อนก็ตาม) ความคิดอ่าน และการตัดสินใจลงมือทำโครงการที่คุณวางแผนไว้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณเองทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงมีไกด์บุ๊คเล็กๆ สำหรับการปรับทัศนคติของคุณให้พร้อมกับการเป็น “เถ้าแก่มือใหม่” อย่างเต็มตัว
1. อยู่ใกล้ๆ กับคนมีไฟเท่านั้น
ไม่ว่าคุณจะเลือกจับสินค้าหรือบริการใดๆ ทุกธุรกิจย่อมมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ไม่ใช่ทุกคนที่ขายสินค้าชนิดเดียวกันจะประสบความสำเร็จเหมือนกันหมด ดังนั้นเมื่อคุณแน่วแน่แล้วว่าจะทำกิจการอะไร ขอให้คุณใช้เวลาฟูมฟักแรงบันดาลใจของคุณให้อยู่หมัด ด้วยการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เห็นด้วยกับไอเดียธุรกิจของคุณ และหมั่นบอกกับตัวเองทุกวันว่า “ฉันจะทำมันให้ได้!” เท่านี้ทุกวันของคุณต่อจากนี้ก็จะมีกำลังใจดี ๆ และพลังงานด้านบวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เครื่องมือแนะนำ: เว็บรวมคำคมดีๆ สำหรับจุดไฟให้กับผู้ประกอบการทุกคนhttp://startupquotes.startupvitamins.com/ (ภาษาอังกฤษที่อ่านเข้าใจง่าย)
2. หมั่นตั้งคำถาม เพราะมันคือการเรียนรู้ที่เร็วที่สุด
เมื่อทำธุรกิจแรก ที่ต้องใช้ทุนของตัวเอง การเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้า พันธมิตร และเรื่องต่างๆ อีกสารพัดเรื่องที่คุณอาจจะไม่รู้มักจะถาโถมเข้ามาเสมอ ดังนั้นคุณควรที่จะหาคำตอบด้วยการตั้งคำถามกับผู้รู้ ไม่ว่าจะเป็นคนจริงๆ หรือแม้แต่กูเกิล หรือวิกิพีเดีย เช่น ไม่ทราบว่าอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าที่คุณขายเป็นเท่านั้น ก็ลองค้นหาข้อมูลจากเว็บของกรมศุลกากรดู
และหากกรณีคำถามของคุณซับซ้อน ก็อาจจะลองพึ่งความรู้ของมวลชนอย่าง pantip.com ที่เพียงตั้งกระทู้ เล่าเรื่องราวของตนเอง (แบบนิรนาม) ก็อาจจะได้คำตอบดีๆ มากมายชนิดที่คุณคาดไม่ถึงก็เป็นได้
ที่สำคัญก็คือ เมื่อได้ความเห็นเหล่านั้นมาแล้วจงหยุดที่จะฟัง คิดตาม และประมวลผล เพราะอย่าลืมว่าคุณกำลังขายสินค้าให้กับคนอื่น ไม่ใช่ขายให้กับตัวเองซื้อ!
เครื่องมือแนะนำ: พันทิปห้องเจ้าของธุรกิจ
3. มีแผนและเป้าหมายที่ชัดเจน
ในเมื่อเป็นธุรกิจแรกของคุณ อาจจะลองวางแผนคร่าวๆ กับตัวเองว่า แต่ละวันจะใช้เวลาทำอะไรบ้าง เช่น พาคู่ค้า คุยกับลูกค้า วางแผนการตลาด จดทะเบียนบริษัท?
เมื่อเช็คลิสต์ว่าทุกอย่างที่ต้องทำก็ทำหมดแล้ว ให้ไปดูที่เป้าหมายของการทำธุรกิจของเราคืออะไร เช่น ต้องการที่จะไม่เครียดและพอมีรายได้เลี้ยงชีพเดือนละ 20,000 บาท หรือต้องการให้มีคนมาเป็นสมาชิกแฟนเพจเราในโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ครบ 10,000 คน หรือแม้แต่ต้องหารายได้ให้ถึง 500,000 บาทภายในสิ้นปี ฯลฯ แผนเหล่านี้ตั้งไว้เพื่อให้เราไม่ให้เขวในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป เพราะไม่มีใครจะให้โอกาสเราได้ดีที่สุด นอกจากตัวเราเอง
เครื่องมือแนะนำ: Wunderlist เว็บ-แอปฯ เขียนสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน (เพิ่มข้อมูลและอ่านได้กับเว็บและมือถือ)
4. สร้างแบรนด์ให้ตัวเอง
หากคุณติดตากับโฆษณาของคุณวสันต์ เจ้าของเบนซ์ทองหล่อ ก็แปลว่าคุณเข้าใจกับคำว่านักธุรกิจต้องสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง โดยเฉพาะกับธุรกิจออนไลน์ที่ผู้ขายกับผู้ซื้อไม่มีโอกาสได้เจอกันตัวต่อตัว ดังนั้นทุกครั้งที่คุณคลิกซื้อ เหตุผลที่สำคัญกว่าราคาถูกคือ “ความไว้ใจ และเชื่อใจผู้ขาย” ดังนั้นการเปิดหน้าเล่าให้ลูกค้าฟังว่าคุณคือ เชี่ยวชาญด้านไหน มาเปิดร้านค้านี้ทำไม ย่อมมีโอกาสทำให้ลูกค้าเชื่อใจคุณได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เครื่องมือแนะนำ: blogger.com เว็บสร้างบล็อกเพื่อแนะนำเรื่องราวของตัวเองใช้งานง่ายไม่ต่างกับโปรแกรมเวิร์ด หรือลองอ่านวิธีการเขียนบล็อกเพื่อเราแนวคิดของตัวเองจากบล็อกของคุณ บัณฑิต อึ้งรังสีได้ที่นี่
5. ให้รางวัลกับตัวเอง
ยอดขายแรกของเว็บ, ยอดขายทะลุ 5,000 ในแต่ละเดือน, หรือยอด Like ครบ 10,000…
การเอาตัวเลขเหล่านี้มาเป็นเหตุผลให้คุณให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทานอาหารหรูๆ สักมื้อ การชวนคนในครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือการเลี้ยงส้มตำมือมื้อเที่ยงกับลูกน้องที่ช่วยแพคส่งของให้เราทุกๆ วัน ก็เป็นการสร้างความสุขเล็กๆ ให้กับตัวเอง และได้สร้างความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานและคนที่พร้อมอยู่ข้างคุณตลอดเวลาอย่างพี่น้องและครอบครัวด้วย
การเอาตัวเลขเหล่านี้มาเป็นเหตุผลให้คุณให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทานอาหารหรูๆ สักมื้อ การชวนคนในครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือการเลี้ยงส้มตำมือมื้อเที่ยงกับลูกน้องที่ช่วยแพคส่งของให้เราทุกๆ วัน ก็เป็นการสร้างความสุขเล็กๆ ให้กับตัวเอง และได้สร้างความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานและคนที่พร้อมอยู่ข้างคุณตลอดเวลาอย่างพี่น้องและครอบครัวด้วย
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้สำหรับการก้าวสู่เส้นทางการเป็นผู้ประกอบการครั้งแรกก็คือ “ความกล้า” กล้าที่จะรับมือกับความไม่แน่นอน กล้าที่แก้ไข กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาด และสุดท้ายคือ กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ จากการลงทุนครั้งแรกไม่สำเร็จดังใจที่คาดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น