ผู้หญิง! บอกลา "หนวด" กันเถอะ
หนวดเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆ ถ้าเกิดกับผู้ชายนะค่ะ แต่เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงมีหนวดนี้สิค่ะไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร ความมั่นใจนี้เรียกได้ว่าหายไปเกินครึ่งแน่ๆ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นสาวๆ ก็ต้องพยายามที่จะทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดมันออกใช่ไหมหล่ะค่ะ วันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็เลยนำเอาความรู้ที่ให้ ผู้หญิง! บอกลา "หนวด" กันเถอะ มาฝากกันค่ะ สำหรับเรื่องน่ารู้ที่จะให้ผู้หญิงบอกลา "หนวด" ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ได้นำมาฝากนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณสาวๆ หลายๆ คนอยากรู้ใช่ไหมล่ะค่ะ เรื่องของ "หนวด" หนึ่งสิ่งบนร่างกายที่ขึ้นบนใบหน้าผู้หญิงทุกคนไม่ต้องการ แต่มันดันมาเกิดผิดที่ซะได้ซิน่า แล้วจะหาวิธีกำจัดหนวดได้เช่นไร แน่นอนว่าเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็เลยได้นำเอาเรื่องน่ารู้ที่จะให้ผู้หญิง! บอกลา "หนวด" กันเถอะในวันนี้มาให้สาวๆ ได้ลองศึกษากันดูค่ะ มันใจว่าเรื่องน่ารู้ที่จะให้คุณผู้หญิงได้บอกลา "หนวด" กันเถอะในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับหนวดอยู่ แล้วก็ทำให้ขาดความมั่นใจ เราเชื่อว่าเรื่องน่ารู้วันนี้ของเราช่วยคุณได้ค่ะ ต่อไปนี้ถึงแม้สาวๆ จะมีหนวดก็ไม่ต้องกังลวใจอีกแล้วค่ะ เพราะเรื่องที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้สามารถจะช่วยแก้ปัญหาใก้คุณได้นะค่ะทำไมถึงขนดก
พันธุกรรม อาการนี้ถ่ายทอดกันได้จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งมักพบมากในหญิงชาวยุโรปมากกว่าที่อื่น หากมีบรรพบุรุษฝ่ายหญิงคนใดที่มีขนดกบนใบหน้า ลูกหลานก็มีแนวโน้มที่จะได้รับมรดกนี้ไปฮอร์โมน ขนบนใบหน้ามากเกินปกตินี้ อาจเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์และในช่วงของการบำบัดรักษา ที่มีการทดแทนฮอร์โมน ก็จะทำให้ขนส่วนเกินบนใบหน้าที่ไม่พึงปรารถนา ถูกเร่งให้เจริญเติบโตขึ้น ซึ่งในทางการแพทย์เรียกว่า "ภาวะขนดก"
นอกจากนี้ อาจเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายหรือผลิตฮอร์โมนต่อมหมวกไตมากเกินไปรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในเพศหญิงที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว รอบเดือน และการตั้งครรภ์ หรือการมีเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต ก็มีส่วนเช่นกัน ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรปรึกษาแพทย์ด้วยว่าเกิดจากความผิดปกตินี้หรือไม่ เพราะนั่นหมายถึงคุณอาจกำลังเป็นโรค และหากต้องการกำจัดขน แพทย์จะแนะนำให้ทำในช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายของคุณอยู่ตัวเข้าที่เข้าทางซะก่อน ไม่อย่างนั้นแล้วขนก็จะยังถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมน ซึ่งทำให้การกำจัดขนไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ให้รู้สาเหตุที่แน่ชัดก่อนกำจัดขนจะดีที่สุด
จัดการ "ขน" ให้อยู่หมัด
และเนื่องจากการใช้มีดโกนหนวดกำจัดขนที่รบกวนจิตใจนี้ ทำให้เกิดร่องรอยชัดเจนบนผิวและขนยังงอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการใช้แหนบถอน มืดโกนจึงเหมาะกับการใช้บนร่างกายเท่านั้น รวมถึงการใช้ครีมกำจัดขนที่ทำให้ระคายเคืองผิวหน้า เราจึงต้องสรรหาวิธีอื่น ๆ แทน
- แบบชั่วคราว
Wax เป็นหนึ่งในวิธีที่ค่อนข้างได้ผลและเป็นที่นิยม โดยสามารถแว็กซ์ได้ทั้งขนบนริมฝีปาก หน้าผาก ข้างใบหน้า แต่ไม่แนะนำที่คาง เพราะอาจทำให้ผิวส่วนนั้นแห้งหยาบ มีข้อควรระวังสำหรับสาวที่มีผิวสีเข้มคืออาจ ทำให้สีผิวหลุดลอก ถ้าเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ และหากคุณขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acidอัลฟาไฮดร็อกไซด์ หรือเอนไซม์ แว็กซ์อาจทำให้เกิดรอยแดง ผิวหนังไหม้หรือหลุดลอก วิธีการแว็กซ์นี้จะสามารถช่วยกำจัดขนไปได้ 2-6 สัปดาห์
- แบบถาวร
Electrolysis กำจัดด้วยไฟฟ้า โดยใช้เข็มแทรกเข้าไปในรากขน แล้วช็อตด้วยกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กที่ยิงผ่านเข็ม แล้วเส้นขนก็จะถูกทำลายอย่างถาวร เป็นการกำจัดขนอย่างราบคาบแบบเส้นต่อเส้น ราคาค่อนข้างสูงแต่ให้ผลที่น่าพอใจมาก และยังเป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนได้ไม่ว่าจะมีสีผิวและสีขนอย่างไร
Laser เป็นวิธีที่แพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยการยิงแสงเลเซอร์ผ่านผิวรากขน เพื่อให้ความร้อนทำลายและหยุดการเจริญเติบโตของขน จะมีประสิทธิภาพต่อผิวสีอ่อนและขนสีเข้ม ดังนั้น ใน IPL Laser มีข้อจำกัดคือผู้มีสีผิวเข้มมากๆ ผิวอาจเกิดรอยไหม้ได้ หรือผู้ที่มีเส้นขนสีอ่อน ก็จะตอบสนองต่อเลเซอร์ได้น้อยลง จึงได้มีการพัฒนา YAG Laser เพื่อลดข้อจำกัดนี้ ซึ่งในจะต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้ง โดยสามารถเข้ารับบริการเป็นคอร์ส อย่างไรก็ตาม ผลจากการยิงเลเซอร์นั้น ย่อมแตกต่างไปตามสภาพผิวของแต่ละคน จึงควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้เลือกชนิดของเลเซอร์ได้ถูกต้อง และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลศัลยกรรมจาก lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น